1.6 ชุดขาตั้งแผ่นพื้นยกระดับสำเร็จรูป'BSP'ชนิดการรับน้ำหนักแผ่นดินไหว (Seismic Pedestal)

คุณสมบัติระบบขาพื้นยกและโครงค้ำยันป้องกันแผ่นดินไหว

ระบบขาพื้นยกและโครงค้ำยันป้องกันแผ่นดินไหว (Raised Access Floor Seismic Pedestal Bracing System) หรือจะเรียกกันสั้นๆว่าระบบพื้นยกป้องกันแผ่นดินไหว (Seismic Raised Floor) โดยจะมีส่วนประกอบหลักๆอยู่ 2 ส่วนคือ

  1. ขาพื่้นยก (Seismic Force - Resistant Pedestal)
  2. โครงค้ำยัน (Bracing System)

โดยระบบโครงสร้างใต้พื้นยกป้องกันแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว (Seismic Understructure Systems) นี้ ได้รับการออกแบบพิเศษสำหรับโครงสร้างพื้นยกระดับประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการสำหรับสภาพแวดล้อมพิเศษคือเป็นพื้นที่ที่มีแผ่นดินไหว ข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพที่เข้มงวดที่สุด สำหรับการรับน้ำหนักสูงและสถานการณ์การติดตั้งที่ซับซ้อน (มากกว่ามาตรฐานทั่วไป)

ข้อมูลจำเพาะและโครงสร้างของขาพื้นยกระดับป้องกันแผ่นดินไหว 

ระบบขาพื้นยกระดับและโครงค้ำยันป้องกันแผ่นดินไหว (Seismic Pedestals with Bracing System) เป็นนวัตกรรมใหม่ของโครงสร้างรองรับพื้นยกระดับสำหรับงานหนัก ซึ่งมอบความเป็นไปได้อย่างไม่จำกัดเพื่อตอบสนองความต้องการพิเศษของแผ่นพื้นยกระดับโดยสอดคล้องในงานวิศวกรรมโยธา โดยสามารถแยกส่วนประกอบสำหรับของระบบได้ 3 ส่วนประกอบ ดังนี้

1. ขาพื้นยกสำหรับการรับน้ำหนักสูง (Heavy Duty Pedestal) เมื่อเปรียบเทียบกับขาพื้นยกระดับทั่วไปแล้ว ขาสำหรับพื้นยกระดับป้องกันแรงแผ่นดินไหว (Seismic Pedestals) มีความสามารถในการรับน้ำหนักและความมั่นคงที่เหนือกว่า ซึ่งไม่เพียงแต่เกิดจากการใช้เหล็กที่หนากว่า ขนาดที่ใหญ่กว่า และเสาที่มีความสูงมากกว่าเท่านั้น แต่ยังมาจากการมีระบบค้ำยันเสาเพิ่มเติมด้วย

  • ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของเสา: 32 มม., 38 มม., 42 มม., 48 มม., 58 มม. เป็นต้น สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการ
  • ความสูงของเสา: 600 ~ 2000 มม. สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการ
  • ขนาดแผ่นฐานเสา (ความยาว, ความกว้าง และความสูง): 125x125x3.0 มม., 150x150x4.0 มม., 200x200x4.0 มม./5.0 มม. เป็นต้น

2. ระบบค้ำยันขาพื้นยก (Pedestal Bracing) ในระบบพื้นยกระดับทั่วไป ขาพื้นยก (Pedestal) ทำหน้าที่รับน้ำหนักตามแนวตั้ง ส่วนราง (Stringer) ทำหน้าที่รับน้ำหนักตามแนวนอน เมื่อความสูงของเสาหรือน้ำหนักที่รับเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด ความมั่นคงของโครงสร้างรองรับด้านล่างซึ่งประกอบด้วยฐานและรางเท่านั้น จะไม่สามารถรองรับได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น เพื่อเสริมความแข็งแรงและปลอดภัยให้กับระบบพื้นยกระดับประเภทนี้ จึงจำเป็นต้องติดตั้งเสาค้ำยันเพิ่มเติมบนโครงสร้างรองรับเดิม เพื่อให้กลายเป็นโครงสร้างที่สามารถต้านทานแรงแผ่นดินไหวได้

3. ข้อต่อค้ำยันเสา (Bracing Clamp) โดยใช้ข้อต่อค้ำยันเสา (Bracing Clamp) ที่มีช่องต่อหลายทิศทาง เชื่อมเหล็กค้ำยันเข้ากับเสาเหล็กในทิศทางต่างๆ เพื่อสร้างระบบโครงสร้างต้านทานแรงแผ่นดินไหวแบบต่างๆ ขนาดของข้อต่อและจำนวนช่องต่อสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

 

คุณสมบัติของขาพื้นยกระดับป้องกันแรงแผ่นดินไหว (Seismic Pedestal Features)

  • ออกแบบสำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว (Designed for earthquake-prone areas): เหมาะสำหรับติดตั้งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว ช่วยให้โครงสร้างพื้นยกระดับมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
  • ออกแบบสำหรับรับน้ำหนักสูงมาก (Designed for ultra-high loads): รองรับน้ำหนักได้มากกว่าขาพื้นยกระดับทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องรับน้ำหนักสูง
  • ออกแบบสำหรับความสูงของขาพื้นยกที่มาก (Designed for extremely high support heights): สามารถปรับความสูงของเสาได้ตั้งแต่ 600 ~ 2000 มม. เหมาะสำหรับการติดตั้งใต้พื้นที่ที่มีความสูงมาก
  • นิยมใช้ในระบบพื้นยกระดับหลากหลายประเภท (Commonly used in various raised floor systems): สามารถใช้ได้กับระบบพื้นยกระดับประเภทต่างๆ
  • ติดตั้งง่าย เปลี่ยนและบำรุงรักษาง่าย (Easy to install, replace and maintain): สะดวกต่อการติดตั้ง การเปลี่ยน และการบำรุงรักษา

 

กรณีที่จำเป็นต้องเลือกใช้ระบบโครงสร้างใต้พื้นป้องกันแรงแผ่นดินไหว (Seismic Understructure System)

ด้วยโครงสร้างและคุณลักษณะพิเศษของขาพื้นยกระดับป้องกันแรงแผ่นดินไหว (Seismic Pedestal) / เสาพื้นยกสำหรับงานรับน้ำหนัก (Heavy Duty Pedestal) ที่มีระบบค้ำยัน เราขอแนะนำให้เลือกใช้ในงานระบบพื้นยกระดับประเภทดังต่อไปนี้:

1. พื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหว (Earthquake-Prone Areas)

ในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหว การติดตั้งระบบค้ำยันสำหรับงานที่รับน้ำหนักสูงและที่มีคุณสมบัติต้านทานแรงแผ่นดินไหวบนขาพื้นยกระดับ จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับพื้นเทคนิค (Technical Floor) ได้เป็นอย่างมาก ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการพังทลายระหว่างการเกิดแผ่นดินไหว ช่วยให้ระบบพื้นมีความมั่นคง ปลอดภัย และลดหรือหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่เกิดจากภัยพิบัติ

2. พื้นที่รับน้ำหนักสูง (High Load) (น้ำหนักรวมจุดใดจุดหนึ่งเกิน 500 กก.)

ในพื้นที่ทำงานที่มีน้ำหนักบรรทุกสูง เช่น บริเวณติดตั้งอุปกรณ์หนัก หรือทางเดินที่มีปริมาณการใช้งานหนาแน่น ถึงแม้จะใช้แผ่นพื้นยกระดับที่มีความสามารถในการรับน้ำหนักรวมจุดใดจุดหนึ่งสูง แต่แรงกดที่มากเป็นเวลานานจะทำให้ขาพื้นยก / pedestal ที่รองรับน้ำหนักตามแนวตั้งเกิดความล้า ดังนั้น การใช้ระบบค้ำยันสำหรับงานหนักที่มีคุณสมบัติต้านทานแรงแผ่นดินไหวจะช่วยกระจายน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้ระบบพื้นมีความมั่นคงปลอดภัยในระยะยาว

3. พื้นยกระดับความสูงมาก (High Raised Floor Height) (ความสูงของขาพื้นยกเกินกว่า 600 มม.)

ความสูงของพื้นยกระดับ / raised floor ยิ่งมาก ยิ่งมีพื้นที่ว่างด้านล่างมากขึ้น ส่งผลให้การใช้ขาพื้นยก / access floor เพียงอย่างเดียวในการรองรับแผ่นพื้นที่มีน้ำหนักมากที่มีความสูงมาก อาจทำให้เกิดการวิบัติหรือ buckling failure จะไม่ปลอดภัยหรือเกินอันตรายได้ ดังนั้นการใช้ระบบค้ำยันเพิ่มเติมเพื่อสร้างโครงสร้างรูปสามเหลี่ยมหรือโครงสร้างหลายมิติ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสร้างความมั่นคงแข็งแรง

 

***ข้อมูลต่างๆเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท B S P (2512) จำกัด ห้ามลักลอบหรือคัดลอกนำข้อมูลไปใช้หรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางบริษัทฯจะดำเนินคดีตามกฏหมายในการละเมิดลิทสิทธฺิ์โดยเด็ดขาด ถ้ามีการกระทำดังกล่าว
Visitors: 281,151